วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของเมล่อน

"เมล่อน" วิตามินรสหวาน...ชื่นใจ
โดย : ดาด้า

เห็นรูปลักษณ์กลมเกลี้ยง คุ้นๆ ว่าเป็นแคนตาลูปที่เคยรับประทาน แต่เฉลยว่า มันคือ "เมล่อน" ของดีจากแดนอาทิตย์อุทัย เติบโตสดใสในสยาม
               ชาติประชา  สอนกลิ่น เกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน งานทดลองเจียไต๋-เนต้าฟิม จากโรงเรือนเนต้าฟิม ไร่ชนม์เจริญฟาร์ม จังหวัดกาญจนบุรี ให้ความกระจ่างว่า เมล่อน (Melon) เป็นพืชอยู่ในตระกูลแตง คล้ายแคนตาลูป แต่มีความแตกต่างกันที่รสชาติ ความหอม กลิ่นและเนื้อของผล ขึ้นกับสายพันธุ์ชนิดต่างๆ ซึ่งในเมืองไทยเรานิยมเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษคือ มีความหวาน หอม และอร่อย
              ช่วงเดือนมิถุนายน หรือช่วงซัมเมอร์ที่ประเทศญี่ปุ่น เมล่อนระดับคุณภาพสูง จะมีราคาค่อนข้างสูงมาก ถึงแม้จะผลไม้ตามฤดูกาลก็ตามที เพราะเกษตรกรชาวญี่ปุ่น จะเพาะปลูกเมล่อนในเรือนกระจกและมีการควบคุมการเพาะปลูกเป็นอย่างดี และที่ขึ้นชื่อก็คือเมล่อนทรงสี่เหลี่ยม จากจังหวัดไอจิ นั่นเอง
แต่เมื่อพวกมันข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย ก็ปรับตัวได้เป็นอย่างดี โดยจะชอบอากาศแห้ง ชอบดินที่มีการระบายน้ำและอากาศดี แต่ถ้าจะให้ได้เมล่อนคุณภาพดี เต็มไปด้วยโภชนาการเต็มสูบ ก็จำเป็นต้องพึ่งพาขั้นตอนและวิธีการเพาะปลูกที่ถูกต้อง


 เกษตรกรของไทย เล่าว่า เมล่อนเป็นผลไม้ที่มีความไวต่อปริมาณน้ำ และความสมบูรณ์ของลำต้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากสืบเสาะหาต้นตอได้ อาจย้อนรอยไปดูที่ต้นของมันว่าจะต้องสมบูรณ์  ได้รับปริมาณน้ำ ปุ๋ยในขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รสชาติหวาน หอม และเนื้อเนียน

 นักวิชาการของเจียไต๋มีเทคนิคง่ายๆ (Tips)  เพื่อให้ผู้รักผลไม้สามารถเลือกซื้อเมล่อนที่รสชาติหอมหวาน ถูกใจ  โดยเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกก่อน ควรเลือกเมล่อนจากความสมบูรณ์ของผลที่สวย น้ำหนักดี มีลักษณะเป็นผลกลมสวย   จากนั้นก็มากลิ้งรอบผล เพื่อดูลายที่เปลือกของเมล่อนควรมีลักษณะเป็นตาข่ายพาดกันอย่างสวยงาม และผิวผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที่

 หากตามร้านค้าของสดหรือตลาด สามารถผ่าครึ่งให้ดูได้ ให้พินิจพิเคราะห์ดูว่าเนื้อของเมล่อนจะมีสีเขียวอมเหลือง และเมื่อนำจมูกเข้าไปใกล้ ก็จะมีกลิ่นหอมชวนกิน ติดจมูกขึ้นมาเลย

 การทานเมล่อนให้อร่อยนั้น ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ก่อนทานควรแช่เมล่อนทั้งผลไว้ในตู้เย็นประมาณ 1-1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วนำมาผ่าครึ่งใช้ช้อนเขี่ยเฉพาะเมล็ดทิ้ง ไม่ควรใช้มีดปาดไส้กลางทิ้ง แบบการปลอกมะละกอ เนื่องจากไส้กลางบริเวณที่ติดกับเมล็ดนั้นเป็นส่วนที่หวานที่สุดของเมล่อน หลังจากนั้นนำมาผ่าเป็นเสี้ยวแล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ ก็จะได้เมล่อนที่หวานอร่อย ที่สำคัญควรหั่นให้พอดีทานหมดเท่านั้น ไม่ควรแช่เมล่อนที่หั่นเป็นชิ้นๆแล้วทิ้งไว้ในตู้เย็น จะทำให้เสียรสชาติ

 สำหรับชาวญี่ปุ่น หรือภัตตาคารญี่ปุ่นในประเทศไทย จะเลือกเสิร์ฟเมล่อนสดที่สุกกำลังดี เนื้อนุ่ม เนียน หวานฉ่ำ แต่หลายคนก็นำมาประยุกต์ทำเป็นเค้กใส่เมล่อน ไอศกรีมเมล่อน เจลลี่เมล่อน ขนมปังเมล่อน ก็อร่อยไปอีกแบบ ในขณะเดียวกันก็มักจะซื้อเมล่อนเป็นของเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลด้วย

 เหตุผลสำคัญเพราะมันมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งนั้น แถมยังไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

 นอกจากนั้นยังเชื่อว่าเอนไซม์ในน้ำเมล่อนชื่อว่า superoxide dismutase มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายในร่างกาย ส่งผลให้สามารถลดระดับความเครียดของคนเราได้ ทำให้ความเจ็บปวด ปัญหาการนอนหลับลดลงได้ รวมทั้งมีกระบวนการรับรู้ที่ดีขึ้น เช่น มีสมาธิมากขึ้น สามารถปรับพฤติกรรม ลดอารมณ์ฉุนเฉียวโมโหง่าย ดูเป็นมิตรขึ้นได้อีกต่างหาก

 ถ้ายังไม่รู้ว่าจะหยิบอะไรเข้าปาก ผลไม้ที่ชื่อ "เมล่อน" ก็น่าสนใจไม่หยอก เพราะนอกจากจะไม่อ้วน ต้านแก่แล้ว ยังลดความเครียดได้ฉับพลันอีกด้วย
credit by http://www.bangkokbiznews.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น