วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

แตงโม

แตงโม (อังกฤษ: watermelon; ชื่อวิทยาศาสตร์: Citrullus lanatus) เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียก บักโม ภาคเหนือเรียก บะเต้า จังหวัดตรังเรียกแตงจีน ถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายคาลาฮารีทวีปแอฟริกา[1] ชาวอียิปต์เป็นชาติแรกที่ปลูกแตงโมไว้รับประทานเมื่อสี่พันปีมาแล้ว[2] ชาวจีนเริ่มปลูกแตงโมที่ซินเกียงสมัยราชวงศ์ถัง และชาวมัวร์ได้นำแตงโมไปสู่ทวีปยุโรป แตงโมแพร่หลายเข้าสู่ทวีปอเมริกาพร้อมกับชาวแอฟริกาที่ถูกขายเป็นทาส แตงโมต้องการดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ น้ำไม่ขัง มักปลูกกันในดินร่วนปนทราย ในประเทศไทยมีการปลูกแตงโมทั่วทุกภูมิภาค และปลูกได้ทุกฤดู
แตงโมเป็นพืชในวงศ์เดียวกับแคนตาลูปและฟัก เป็นพืชล้มลุกเป็นเถา อายุสั้น เถาจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีขนอ่อนปกคลุม ผลมีทั้งทรงกลมและทรงกระบอก เปลือกแข็ง มีทั้งสีเขียวและสีเหลือง บางพันธุ์มีลวดลายบนเปลือก ในเนื้อมีเล็ดสีดำแทรกอยู่ แตงโมที่นิยมปลูกโดยทั่วไปมี 3 พันธุ์คือปลาดุก
พันธุธรรมดา มีเมล็ดขนาดเล็ก รสหวาน แบ่งย่อยได้อีกหลายพันธุ์ เช่น แตงโมจินตหรา ผลยาวรี เปลือกเขียวเข้ม มีลาย เนื้อสีแดง แตงโมตอร์ปิโด ลูกรีกว่าพันธุ์จินตหรา แตงโมกินรี ผลกลม เนื้อแดง แตงโมน้ำผึ้ง ผลกลม เนื้อเหลือง แตงโมไดอานา เปลือกเหลือง เนื้อสีแดง แตงโมจิ๋ว ผลขนาดเท่ากำปั้น เนื้อเหลือง เป็นต้น
พันธุ์ไม่มีเมล็ด เป็นพันธุ์ผสมเพื่อใช้ในการส่งออก ไม่มีเมล็ดแก่สีดำภายใน ในญี่ปุ่นมีการทำแตงโมให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมโดยให้ผลเจริญในกล่อง เพื่อความสะดวกในการขนส่ง .[3]
พันธุ์กินเมล็ด ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่วเป็นเม็ดก๋วยจี๊ พันธุ์นี้มีเนื้อน้อย เมล็ดขนาดใหญ่



การใช้ประโยชน์


แตงโมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น จะช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปาก เปลือกแตงโมนำไปต้มเดือด แล้วเติมน้ำตาลทราย ดื่มเพื่อป้องกันเจ็บคอ กินเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ เปลือกหรือผลอ่อนใช้ทำอาหาร เช่น แกงส้ม ในเวียดนาม นิยมรับประทานเมล็ดแตงโมในเทศกาลปีใหม่ [4]

พบกรดอะมิโน citrulline เป็นครั้งแรกในแตงโม[5] โดยแตงโมมี citrulline มาก ถ้ารับประทานในปริมาณหลายกิโลกรัมจะตรวจพบในเลือดของผู้รัประทานได้ ซึ่งจะเข้าไปรบกวนวัฏจักรยูเรีย[6] ในเนื้อผลมีเบตาแคโรทีน[7] เปลือกที่มีสีเขียวอ่อนหรือขาวของแตงโมรับประทานเป็นผักได้ [8] นำไปทำไวน์ได้ [9]

ใช้ทำเป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า และลดอาการแสบแดง วิธีการง่ายๆ เพียงแค่นำเนื้อแตงโมมาฝานบางๆ แล้วนำมาวางไว้บนผ้าขาวบาง จากนั้นนำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


ขอบคุณข้อมูลhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A1



แอดมินได้ลองเพาะกล้าแตงโมดำของเจียไต๋ด้วยนะคับ วิธีบ่มเมล็ดก้อทำแบบเดียวกับเมล่อนเลย แต่วันนี้แอดมินย้ายต้นกล้าลงวัสดุแปลูกเรียบร้อยแล้วคับ 1  ต้น วัสดุเพาะกล้าที่แอดมินใช้ มี ดินปลูกต้นไม้ 8 กำ แกลบดำ 8 กำ ขุยมพร้าว 8 กำ กากมะพร้าวสับ 8 กำ คับ นำมาผสมคลุกเคล้าให้ทั่วแล้วเทใส่ถุงดำ รดน้ำให้ชุ่มแล้วย้ายต้นกล้ามาปลูกลงไปคับ ตามทฤษฏีเขาบอกให้ย้ายปลูกตอนเย็นแต่แอดมินใจร้อนเลยย้ายตอน 3โมงเช้า แดดอุ่นๆคับ ที่เชียงใหม่อากาศเยนมากคับปีนี้หนาวๆๆๆ

ถุงดำใหญ่มากคับขนาด 8*12 เด๋วต้องเปลี่ยนขนาดล่ะคับ ใหญ่เกินสิ้นเปลืองวัสดุปลูกคับ
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคับ หนาวมาก แอดมินไปผิงไปก่อนนะคับ ดูแลตัวเองด้วยคับทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น